ปลายปีแบบนี้แอบเห็นบรรดาเพื่อนสาวที่ยังไม่มีคู่ตุนาหงัน ตั้งสเตตัสเหงาๆ อิจฉาคนมีคู่ที่เตรียมจับจูงกันไปฉลองปีใหม่สุดหวานน้ำตาลเรียกทวด แต่พวกเธอต้องนั่งเหี่ยวเปล่าเปลี่ยวอยู่กับเฟสบุ๊ค สาวๆคะ อย่าเพิ่งนอยด์ล่วงหน้า แม้เราจะโสด เราก็จะเป็นสาวโสดแสนสุข ที่สำคัญโสดและสุขแบบสตรองด้วยค่ะ! และถ้าใครยังไม่รู้ว่า จะโสดอย่างไรถึงจะสตรอง จูนมีวิธีมาแนะนำค่ะ
เป็นสารถีพาบุพการีไปเที่ยว
ถ้าเกิดความเหงาขึ้นในจิตใจเมื่อไหร่ ลองชวนคุณพ่อคุณแม่ไปเที่ยวนอกบ้าน โดยเราอาสาขับรถพาท่านไป ไม่ว่าจะกินข้าว ดูหนัง พาไปทำบุญ หรือไปเที่ยวก็ได้ ที่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันทั้งครอบครัว ได้ใช้เวลาด้วยกันนานๆ Selfie ด้วยกัน พูดคุยกันภาษาพ่อแม่ลูก การได้เอาใจใส่พ่อแม่บ่อยๆ รับรองเลยว่า ความเหงาจะหายไปมากกว่าครึ่งเลยล่ะค่ะ
ปลุกเร้าความสดชื่น เริงรื่นด้วยกิจกรรมสุดมันส์
ถ้าจะกำจัดความเหงา ต้องปลุกเร้าด้วยกิจกรรมมันส์ๆ อันนี้จะทำคนเดียวหรือนัดก๊วนเพื่อนสาวไปทำด้วยกันก็ได้ค่ะ ขอเล่าความมันส์ที่เกิดกับตัวเองสักหน่อยนะคะ จูนเคยไปเที่ยวสวนสัตว์กับเพื่อนสาว ทีนี้เห็นเรือปั่นก็อยากจะนั่งกันค่ะ แต่ครั้นจะนั่งปั่นสวยๆก็น่าเบื่อ เลยสร้างกติกาขึ้นมาใหม่ คือในเขตน้ำที่เราปั่นได้ จะมีตัวเงินตัวทองหรือกลุ่มจูนจะเรียกว่า เฮ้น้อย ในน้ำนี้จะมีเยอะมาก กติกาออกจะพิเรนท์ไปสักหน่อยนะคะ ซึ่งกติกาที่ว่าก็คือ หากใครเจอเฮ้น้อยแล้วปั่นไปถึงเฮ้น้อยกลอยใจก่อนคนนั้นชนะ ทีนี้ระหว่างทาง มีเฮ้น้อยบางตัวว่ายน้ำพุ่งหลาวตรงมาทางเรือพวกเรา พอเห็นปุ๊บตกใจ ปั่นเรือหนีขาเป็นระวิง มันส์สุดติ่งกระดิ่งสั่นเลยค่ะ ตื่นเต้นมาก ความเหงากระเจิงค่ะ อ้อ!แต่กิจกรรมนี้พวกเราไม่ได้ไปทำร้ายเฮ้น้อยนะคะ สบายใจได้ แต่ถ้าผู้หญิงบางคนไม่ชอบความตื่นเต้นเกินขีดจำกัด ชอบความตื่นเต้นแบบกลางๆ ลองชวนก๊วนเพื่อนไปล่องแก่งดูก็ได้ค่ะ แต่ว่าอย่าไปหน้าน้ำหลากนะคะ อันตราย แค่ไปล่องเพลินๆ เก๋ๆก็หายเหงาแล้วค่ะ
อย่านั่งเฉา ถ้าเหงาต้องเจอเพื่อน
การที่คุณเอาแต่นอนทอดหุ่ยบนเตียง หยิบสมาร์ทโฟนคู่ใจมาอัพสเตตัสเฟสบุ๊คว่าเหงา เหงา เหงา มันไม่ช่วยให้คุณหายเหงาได้หรอกค่ะ นอกจากไม่หายเหงาแล้ว ยังเป็นการสร้างพลังงานด้านลบให้ตัวคุณเปล่าๆ แรกๆ เพื่อนอาจมาคอมเม้นท์ชวนคุย แต่พออัพถี่เกินไป เพื่อนก็เริ่มหาย เพราะไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่มีพลังงานลบตลอดเวลาหรอกค่ะ ทางที่ดีมาสร้างพลังงานบวกด้วยตัวเองกันดีกว่า เริ่มด้วยการยกหูโทรศัพท์เซย์ฮัลโหลหาเพื่อนค่ะ ชวนกันไปเที่ยวแล้วทำกิจกรรมร่วมกัน หรือแค่นัดกินข้าวเม้าท์มอยหอยสังข์ รำลึกความหลังเมื่อยังยังแซ่บ อ้อ!เวลานัดกับเพื่อน ต้องเป็นนัดที่ไม่มีธุระต่อนะคะ จะได้อยู่กันยาวๆ บอกเลยวิธีนี้ นอกจากจะหายเหงาแล้ว ยังได้พลังในการใช้ชีวิตกลับมาอีกเพียบเลยล่ะค่ะ ข้อนี้คอนเฟิร์มว่า โค-ตะ-ระ-แก้เหงาได้ชะงัดนักค่ะ
อย่ามุดอยู่ในกระดอง ลองหลุดจากความกลัว
ผู้หญิงบางคนอยู่แต่ในโลกของตัวเอง กลัวไปหมดทุกสิ่งบนโลกใบนี้ กลัวการเดินทาง กินข้าว ดูหนังคนเดียว กลัวมาก ประหม่าด้วย กลัวว่าคนนั้นคนนี้จะมองยังไง โอ้ยยยย! คิดเยอะ เยอะเกินไปไงคะมันเลยต้องอยู่แต่ในโลกเหงาๆ เพราะไม่กล้าก้าวไปไหน ถ้ายังไม่เคยลองทำแล้วมัวแต่กลัว ชีวิตก็ไม่เดินไปข้างหน้าหรอกค่ะ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดความกลัวคือ คุณต้องเผชิญกับมันค่ะ คุณต้องกล้าออกมาเจอกับสิ่งที่คุณกลัว ประจันหน้ากันไปเลย แล้วคุณจะรู้ว่า ไม่มีอะไรน่ากลัวแม้แต่นิดเดียว เมื่อก่อนจูนก็เคยคิดนะคะ ว่าการดูหนังผีคนเดียวในโรงหนังเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงมาก พอวันหนึ่งอยากดูหนังผี แต่ไม่มีใครว่างไปดูด้วย เลยลองฉายเดี่ยวดู คิดว่าแค่นี้ไม่ตายอ่ะ ปรากฏว่าไม่มีอะไรน่ากลัวเลยค่ะ ตื่นเต้นดีด้วย จำได้ว่าฉากผีโผล่มา จูนตกใจมากทำป็อบคอร์นในมือกระเด็นไปตกใส่หัวคนข้างหน้า แถมยังทำหกกระจายใส่คนข้างๆอีกต่างหาก บอกเลยว่าการทำป็อบคอร์นหกใส่คนไม่รู้จักนี่ตื่นเต้นกว่าหนังผีในโรงหนังที่กำลังเสพอีกค่ะ^^
หนังสือคือโลกอีกใบ หามาไว้ประดับสมอง
ถ้ามันเหงามากนัก แนะนำให้ไปร้านหนังสือค่ะ แล้วหยิบเรื่องที่สนใจมาอ่านเพิ่มความรู้เป็นอาหารสมอง ไม่ต้องหนังสือวิชาการหรอกค่ะ จะเป็นศาสตร์ด้านไหนที่เราสนใจก็ไปเลือกมาอ่าน พอได้อ่านหนังสือ เราจะเหมือนหลุดไปอีกโลกหนึ่งจนลืมคววามเหงาเลยล่ะค่ะ เผลอๆ อ่านเรื่องที่สนใจบ่อยๆ เราอาจกลายเป็นกูรูในศาสตร์นั้นๆไปโดยปริยายก็ได้นะคะ โสดสวยแล้วมีสมอง อันนี้จัดว่าเด็ดค่ะ
หมั่นเติมความสวย อย่าทำตัวเหมือนป่วยตลอดเวลา
สาวโสดบางคนปล่อยตัวค่ะ คิดว่าไหนๆก็ไม่มีใครเข้ามาในชีวิต ก็เลยปล่อยตัวเป็นป้าก่อนวัยอันควร บางคนหนักกว่านั้น ทำตัวเรียกร้องความสนใจโดยการทำตัวป่วยๆ เผื่อจะมีใครมาสงสาร วิธีเรียกร้องความสงสารแบบนี้ไม่เวิร์คค่ะ ความสงสาร สมเพช และความรัก มันคนละความรู้สึกกัน แยกให้ออกนะคะ จริงๆเป็นผู้หญิงที่ยังโสด ต้องมองว่ามันเป็นโอกาสค่ะ เพราะมันหมายความว่า เรายังมีโอกาสที่จะเลือกคนรักดีๆ อยู่ ฉะนั้นทำตัวให้สดใสเข้าไว้ เริ่มด้วยการสดใสทางจิตใจ คือการคิดบวก มองหาข้อดีแม้จะเจอเรื่องแย่ๆ ส่วนทางกายภาพลองเปิดอินเทอร์เน็ตดูวิธีบำรุงผิวง่ายๆที่เราทำได้ด้วยตัวเอง ดูวิธีแต่งหน้าที่เหมาะกับรูปหน้าของเรา หรือว่างๆจะไปเลเซอร์ขนหน้าแข้ง ขนจักกะแร้ ทำสปาสวยๆก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ต้องถึงขนาดไปทำศัลยกรรมหรอกนะคะ ถ้าใจไม่ได้อยากทำ คำว่าสวยในความหมายที่จูนบอก ไม่ได้หมายถึงต้องสวยเหมือนดารา แค่เราสวยในสไตล์ของเรา เป็นในแบบที่เราเป็น ไม่ปล่อยตัวให้โทรมก็พอแล้วค่ะ
ความสงบทางใจขับไล่ความเหงา
เวลาเหงาเรามักจะฟุ้งซ่านได้ง่ายกว่าปกติ พอฟุ้งซ่านมากๆก็เป็นทุกข์ขึ้นมาอีก วิธีกำราบความฟุ้งซ่านที่ดีที่สุด คือความสงบค่ะ ความสงบนำมาซึ่งความสุข เหมือนดังคำกล่าวที่ว่า สุขใดเล่าจะสุขเท่าสุขจากความสงบ ถ้าเหงามากๆ ลองไปทำบุญถวายสังฆทาน ไหว้พระที่วัดดูบ้าง แล้วก็ลองนั่งนิ่งๆหน้าพระพุทธรูป นั่งนิ่งๆแบบไม่ต้องหลับตาก็ได้ค่ะ นั่งสังเกตลมหายใจตัวเอง มันสั้นยาวอย่างไร ดูจังหวะการหายใจเราเป็นอย่างไรบ้าง ลมออกแป๊บเดียว เดี๋ยวลมก็เข้าสลับไปมา ลมไม่ได้ออกตลอด หรือเข้าตลอด มันเกิดแล้วก็ดับ ไม่ต่างจากความทุกข์หรือสุข มันเกิดขึ้นไม่นานก็ดับแล้วหายไป พิจารณาลมหายใจไปเรื่อยๆ เดี๋ยวความสงบก็มาเยือนค่ะ หรือหากความฟุ้งซ่านจากความเหงาเกิดตอนดึกๆ ถ้าที่บ้านไม่มีห้องพระ ให้หาบทสวดมนต์ยาวๆมาสักบทสองบท เป็นบทสวดพร้อมคำแปลด้วยนะคะ ลองเอามาสวดก่อนนอนอย่างตั้งใจ รับรองว่ากำจัดความเหงาได้ดีเยี่ยมเลยล่ะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น